การดูแลผิวหน้า
·
ทำตัวให้ไกลจากแดดจ้า พยายามหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแดดจัดๆ นะคะ
ก็เพราะไอ้แดดจัดๆ นี่ล่ะค่ะ ที่ชอบทำตัวเป็นคู่อริกับผิวหน้าของคุณอยู่ตลอดเวลา
ทำให้ผิวของคุณหมองคล้ำและแก่เร็วอีกต่างหาก
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณจำเป็นต้องออกเผชิญกับแดดจัดๆ แบบนั้นแล้วล่ะก็ อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านด้วยนะคะ
ให้เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF (สารปกป้องแดด) 15 เป็นอย่างน้อย
ยิ่งถ้าหาซื้อครีมกันแดดชนิดผสมมอยซ์เจอไรเซอร์มาใช้ด้วยแล้ว
จะยิ่งทำให้ช่วยบำรุงผิวไปในตัวได้ด้วยค่ะ
·
เพิ่มวิตามินให้ผิวพรรณ เลือกกินผลไม้ ผัก และธัญญพืชให้มากๆ
เข้าไว้นะคะ เพราะอาหารจำพวกนี้มีส่วนช่วยลดอันตรายที่เกิดจากแสงแดดได้ค่ะ
อีกทั้งยังมีส่วนผสมของวิตามินหลากหลายชนิดที่จะทำให้ผิวพรรณของคุณดูมีน้ำมีนวล
สดใสและเปล่งปลั่งอยู่เสมอ แถมยังป้องกันโรคแก่ก่อนวัยได้ผลชะงักด้วยนะคะ
·
ดื่มน้ำเพิ่มความสดชื่น การดื่มน้ำมากๆ
จะทำให้เกิดความสมดุลย์ในร่างกาย และช่วยให้ผิวพรรณของคุณดูมีสุขภาพดีอยู่เสมอค่ะ
พยายามสร้างนิสัยการดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้วเอาไว้นะคะ
และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน
ซึ่งเป็นตัวการสลายความชุ่มชื้นของผิวพรรณด้วยก็จะดีมากค่ะ
·
หาวิธีสยบความเครียด อย่าปล่อยให้ร่างกายและจิตใจของคุณ
ต้องเผชิญกับความเครียดที่หมักหมมมาจากการทำงานตลอดสัปดาห์ของคุณเลยนะคะ
สงสารตัวคุณเองบ้าง แล้วพยายามหาเวลาอย่างช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์พักผ่อนให้สบาย
โดยอาจใช้วิธีออกกำลังกาย เล่นโยคะ หรือจะแอบงีบช่วงกลางวันก็ไม่มีใครว่าค่ะ
เป็นเรื่องดีเสียอีกที่คุณได้ปลดปล่อยตัวเองให้สบายๆ ขืนเครียดไปมากๆ
ก็มีแต่จะทำให้หน้าคุณมีแต่สิวเกรอะกรัง จนไม่มีหนุ่มๆ คนไหนอยากจะหันมาแลอีกต่อไป
·
หันหลังให้บุหรี่ เคยสังเกตมั้ยคะว่า คนที่สูบบุหรี่จัดๆ
มักดูแก่เร็วกว่าคนปกติ ความจริงไม่แปลกเลยค่ะ เพราะคนที่สูบบุหรี่จัดๆ
จะนำเอาสารประกอบที่อยู่ในตัวบุหรี่นั้นเข้าสู่ร่างกาย
และมีผลทำให้เนื้อเยื่อที่มีส่วนทำให้ผิวหนัง
ดูเต่งตึงและนวลเนียนตามวัยถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว
คนที่สูบบุหรี่วันละสิบซองจึงดูโทรมและเกิดรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรค่ะ ทางที่ดี ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดบุหรี่อยู่ล่ะก็
ให้เลิกซะเถอะค่ะ เพราะแลกกับความสวยและความสาวของคุณในตอนนี้แล้วล่ะก็
ไม่คุ้มกันเลยนะ จะบอกให้
·
เลิกวิธีประหยัดแบบไม่เข้าท่า อย่างเช่น
ถ้าฟองน้ำที่ใช้คู่กับแป้งรองพื้นเริ่มออกแววสกปรกให้เห็นแล้ว
ก็ไม่ควรเก็บเอาไว้ใช้อีกนะคะ นั่นน่ะ คือสัญญาณบอกให้รู้ว่าเชื้อแบคทีเรีย
เริ่มเข้าไปสร้างหลักปักฐานกันบนฟองน้ำอันนั้นแล้วล่ะค่ะ แถมถ้าใช้ไปเรื่อยๆ
ก็จะเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อีก วิธีที่ดีที่สุดคือ
คุณควรจะซื้อฟองน้ำเปลี่ยนใช้บ่อยๆ ค่ะ ดังนั้น
ฟองน้ำที่ซื้อก็ไม่จำเป็นต้องแพงอะไรเลย
แต่ขอให้คุณพยายามเปลี่ยนทันทีที่รู้สึกว่า มันเริ่มสกปรกแล้วก็พอค่ะ
รวมทั้งแปรงที่ใช้คู่กับเครื่องสำอางค์ต่างๆ ของคุณด้วยนะคะ
หมั่นล้างทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
เพื่อแลกกับความสวยใสของใบหน้าคุณแล้ว ถือว่าไม่เปลืองเลยนะเนี่ย
·
ทำผิวหน้าให้สะอาดใส ด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้าที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ค่ะ
แล้วล้างกับน้ำอุ่นๆ จะทำให้ผิวของคุณดูสะอาดและมีสุขภาพดีอยู่เสมอ
แต่คุณไม่ควรเลือกสบู่หรือโฟมที่มีส่วนผสมของสครับ (scrub) นะคะ
เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง และทำอันตรายต่อผิวหน้าได้ค่ะ
นอกจากวิธีดูแลผิวหน้าเบื้องต้นอย่างที่บอกนี้แล้ว สาวๆ หลายคนยังพยายามที่จะค้นหาวิธีบำรุงผิวหน้าต่างๆ นานา เพื่อให้ตัวเองดูดี และมีเสน่ห์อีกด้วยค่ะ หลายๆ คนเลือกไปที่ร้านเสริมสวย เพราะมีช่างที่สามารถช่วยเราได้ในเรื่องกรรมวิธีการบำรุงผิวหน้าอย่างถูกต้อง แต่บางคนก็เลือกที่จะค้นหาวิธีสำหรับการบำรุงผิวหน้าด้วยตัวเองที่บ้าน อย่างวิธีที่จะแนะนำดังต่อไปนี้ค่ะ
นอกจากวิธีดูแลผิวหน้าเบื้องต้นอย่างที่บอกนี้แล้ว สาวๆ หลายคนยังพยายามที่จะค้นหาวิธีบำรุงผิวหน้าต่างๆ นานา เพื่อให้ตัวเองดูดี และมีเสน่ห์อีกด้วยค่ะ หลายๆ คนเลือกไปที่ร้านเสริมสวย เพราะมีช่างที่สามารถช่วยเราได้ในเรื่องกรรมวิธีการบำรุงผิวหน้าอย่างถูกต้อง แต่บางคนก็เลือกที่จะค้นหาวิธีสำหรับการบำรุงผิวหน้าด้วยตัวเองที่บ้าน อย่างวิธีที่จะแนะนำดังต่อไปนี้ค่ะ
วิธีอบไอน้ำด้วยพฤกษาธรรมชาติ
ส่วนผสม
- น้ำสะอาด 2 ถ้วย
- กลีบดอกไม้หลากชนิด บรรจุรวมกันประมาณ ? ถ้วย
วิธีทำ
ต้มน้ำให้เดือดแล้วยกลงจากเตาค่ะ จากนั้นให้ใส่กลีบดอกไม้ที่เตรียมไว้มาลงไปในน้ำที่ต้มแล้ว คนส่วนผสมทั้งหมดกับน้ำที่ต้มประมาณ 5 นาที แล้วเอียงหม้อนิดๆ ค่ะ ยื่นหน้าของคุณเข้าไปอัง กะระยะห่างประมาณ 1 ฟุต ปิดตา แล้วใช้ผ้าคลุมศีรษะกับหม้อเอาไว้ ทำเป็นเหมือนเต็นท์อบไอน้ำนั่นล่ะค่ะ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จึงล้างหน้าด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง ลองสังเกตดูสิคะว่า ผิวหน้าของคุณรู้สึกสดชื่นขึ้นมากแค่ไหน
อ้างอิง
creamdee.com2556.วิธีการดูแลผิวหน้า.[ออนไลน์]เข้าถึงhttp://www.creamdee.com/?mo=3&art=308839/ สืบค้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน
2556.
การเกิดสิว
การเกิดสิว
ต่อมขุมขนของคนเราประกอบไปด้วยส่วนต่างๆได้แก่
·
ต่อมไขมันหรือ Sebaceous
gland
·
รากขนหรือ Follicle
·
ไขมันหรือ Sebum
·
และมีรูเปิดหรือเรียกว่า pore
สู่ผิวหนัง
การเกิดสิวเกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันมาก
และมีการอุดกลั้นทางเดินของไขมัน ทำให้สิวซึ่งอาจจะเป็นสิวหัวขาว หรือหัวดำก็ได้
หากมีการติดเชื้อแบคทีเรียจะทำให้เกิดการอักเสบของสิว เช่นเป็นหนอง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้แก่
·
ฮอร์โมน ร่างกายสร้างฮอร์โมน Androgen
ทำให้มีการสร้างไขมันเพิ่ม โดยมากฮอร์โมนจะเริ่มสร้างเมื่ออายุ 11-14
ปีดังนั้นจึงพบสิวมากในวัยนี้และอาจจะอยู่ได้นานหลายปี
·
การผลิตไขมันมากขึ้นและร่วมกับเซลล์ผิวหนัง
และเชื้อแบทีเรียทำให้เกิดการอุดตันจนเกิดสิว
·
มีการเปลี่ยนแปลงของรากผม
รากผมเจริญเร็วเซลล์มีการแบ่งตัวเร็ว และมีเซลล์ที่ตายมาก
จึงเกิดการอุดตันของต่อมไขมัน
·
แบททีเรียโดยเฉพาะชื่อ Propionibacterium
acne จะทำให้เกิดการอักเสบของสิว
·
กรรมพันธ์
·
การทำงานของต่อมไขมัน
หากที่ใดที่มันและร่วมกับการดูแลรักษาความสะอาดไม่ทั่วถึงก็ทำให้เกิดสิว
·
อาหารโดยทั่วไปไม่มีผลต่อการเกิดสิว
แต่ก็มีความเชื่อกันว่าการรับประทานอาหารที่มัน หรือหวานจะเกิดสิวได้ง่าย
·
อากาศ
ขึ้นกับแต่ละคนบางคนเป็นมากในฤดูหนาว บางคนฤดูร้อน
·
อารมณ์
คนที่อารมณ์ดีจะเกิดสิวน้อยกว่าคนที่อารมณ์เสีย
·
การใช้เครื่องสำอางค์เป็นปัจจัยที่สำคัญในการเกิดสิว
การเลือกสบู่ที่เหมาะกับสภาพผิวหนัง คนที่มีแห้งควรจะใช้สบู่ที่เป็นด่างอ่อน
คนที่ผิวมันก็อาจจะใช้สบู่ที่มีความเป็นด่างมากขึ้นได้
หรืออาจจะใช้สบู่ที่มีด่างอ่อนแต่ล้างหน้าบ่อยขึ้น
·
ครีมบำรุงผิวก็ต้องเลือกใหถูกกับผิวหน้า
คนที่ผิวแห้งไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอร์เป็นส่วนประกอบ คนที่ผิวมันก็หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีไขมันสูง
·
การระคายผิว
เช่นการล้างหน้าที่มีการถูมาก หรือการบีบสิว
·
ยาบางชนิดทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น เช่น INH
Iodides Bromide Steroid Testosterone Gonadotropine Anabolic steroid ยาคุมกำเนิด
ตำแหน่งที่เกิดสิว
อ้างอิง
http://siamhealth.net.สาเหตุของการเกิดสิว[ออนไลน์]เข้าถึง http://siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/acne_cause.html#.UbqDv-Rg-GM/ สืบค้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556.
หน้าหมองคล้ำว่า
การที่เซลล์สร้างสีพร้อมใจกันสร้างสีทั่วทั้งใบหน้า
ก็แสดงว่าเซลล์สร้างสีมันไม่ได้ปกป้องเฉพาะปลายประสาทแบบเดียวกับกรณีของฝ้าแล้วครับ
มันพยายามปกป้องทุกๆ เซลล์ในผิวหนังจากรังสี UV รวมทั้งตัวมันเองด้วย
เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นว่ากรณีหน้าหมองคล้ำตามธรรมชาติมันดำทั่วๆ ไปทั้งใบหน้า
แต่เนื่องจากโดยปกติแล้วใบหน้าคนเราไม่มีทางโดนแสง UV ได้เท่าๆ กันทั้งหน้าหรอกครับ
บางบริเวณก็โดนมากบางบริเวณก็น้อย มันก็เลยทำให้ใบหน้าที่หมองคล้ำนั้นคล้ำไม่เท่ากันเกิดเป็นกรณีที่เรียกว่าสีผิวไม่สม่ำเสมอร่วมด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นคนที่หน้าหมองคล้ำมักจะมีสีผิวไม่สม่ำเสมอร่วมด้วยเสมอดยปกติแล้วรังสี
UV จะมีอยู่ 3 ความยาวคลื่น คือ UVA, UVB และ UVC สำหรับ UVC แล้วไม่ตกมาถึงผิวโลกจึงขอไม่พูดถึง ส่วนที่จะมีผลกับผิวหนังคือ
UVA และ UVB
ดูจากรูปประกอบคุณผู้อ่านจะเห็นว่า รังสี UVA มีความยาวคลื่นสูงทะลุทะลวงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ซึ่งเซลล์ที่สำคัญๆ ในชั้นนี้ก็คือเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเซลล์ตัวที่ว่านี้จะทำหน้าที่หลักๆ คือสร้างพวก Collagen และ Elastin เป็นตัวการทำให้ผิวหนังแข็งแรงมีความยืดหยุ่น ตึงตัว และในผิวหนังชั้นหนังแท้นี้ก็ยังมีเส้นเลือดฝอยเล็กๆด้วย ถ้าเซลล์ของผนังเส้นเลือดฝอยเหล่านี้เสียความตึงตัว มันก็จะทำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัว ก็จะทำให้เลือดคั่งค้างในเส้นเลือดในปริมาณมากทำให้มองดูแล้วเห็นใบหน้าหมองคล้ำได้ ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ ก็กลายเป็นฝ้าเส้นเลือดได้
รังสี UVB มีความยาวคลื่นที่สั้นกว่าก็จะทะลุทะลวงได้ไม่ลึกแค่ประมาณแถวๆ ชั้นหนังกำพร้าได้เท่านั้นซึ่งเซลล์ที่สำคัญในชั้นนี้ก็จะเป็นพวกเซลล์หนังกำพร้า (Keratinocyte) และก็เซลล์สร้างสี(Melanocyte)
ทั้งเซลล์สร้างสี เซลล์หนังกำพร้า เซลล์ไฟโบรบลาสต์ เซลล์เส้นเลือดฝอย จะมีทุกหนทุกแห่งบนผิวหนัง เพราะฉะนั้น กรณีหน้าหมองคล้ำจึงเป็นการที่เซลล์สร้างสีทำการปกป้องคุ้มครอง
ดูจากรูปประกอบคุณผู้อ่านจะเห็นว่า รังสี UVA มีความยาวคลื่นสูงทะลุทะลวงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ซึ่งเซลล์ที่สำคัญๆ ในชั้นนี้ก็คือเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเซลล์ตัวที่ว่านี้จะทำหน้าที่หลักๆ คือสร้างพวก Collagen และ Elastin เป็นตัวการทำให้ผิวหนังแข็งแรงมีความยืดหยุ่น ตึงตัว และในผิวหนังชั้นหนังแท้นี้ก็ยังมีเส้นเลือดฝอยเล็กๆด้วย ถ้าเซลล์ของผนังเส้นเลือดฝอยเหล่านี้เสียความตึงตัว มันก็จะทำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัว ก็จะทำให้เลือดคั่งค้างในเส้นเลือดในปริมาณมากทำให้มองดูแล้วเห็นใบหน้าหมองคล้ำได้ ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ ก็กลายเป็นฝ้าเส้นเลือดได้
รังสี UVB มีความยาวคลื่นที่สั้นกว่าก็จะทะลุทะลวงได้ไม่ลึกแค่ประมาณแถวๆ ชั้นหนังกำพร้าได้เท่านั้นซึ่งเซลล์ที่สำคัญในชั้นนี้ก็จะเป็นพวกเซลล์หนังกำพร้า (Keratinocyte) และก็เซลล์สร้างสี(Melanocyte)
ทั้งเซลล์สร้างสี เซลล์หนังกำพร้า เซลล์ไฟโบรบลาสต์ เซลล์เส้นเลือดฝอย จะมีทุกหนทุกแห่งบนผิวหนัง เพราะฉะนั้น กรณีหน้าหมองคล้ำจึงเป็นการที่เซลล์สร้างสีทำการปกป้องคุ้มครอง
อ้างอิง
panrc.com .หน้าหมองคล้ำ.[ออนไลน์]เข้าถึง http://www.panrc.com/HolisticHomeostasis.asp?MID=115&CID=6 สืบค้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556.
สาเหตุการเกิดริ้วรอย
แสงแดด
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน และมีแดดจัดจ้ามาก
เราจึงยากที่จะหลีกเลี่ยงแสงแดดได้
ความตื้นลึกของริ้วรอยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ผิวหน้าของเราสัมผัสแสงแดด ส่วนใหญ่ริ้วรอยจากแสงแดดจะปรากฏให้เห็นในคนที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี หรือวัยรุ่นที่มีกิจกรรมต้องออกแดดเป็นประจำ
ซึ่งนอกจากจะเกิดริ้วรอยแล้ว ยังจะได้ฝ้า กระ จุดด่างดำ ติดหน้ากันมาด้วย
หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี คอลลาเจนใต้ผิวก็จะถูกแสงแดดทำลายไปเรื่อยๆ ริ้วรอยก็จะยิ่งลึกขึ้นทุกวันๆ
วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดช่วง 10.00 น. – 18.00 น. และควรทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกจากบ้านเพื่อป้องกันรังสียูวี
การแสดงสีหน้า
เป็นการสร้างริ้วรอยให้ตัวเองโดยไม่รู้ตัว จากการแสดงสีหน้าแบบต่างๆ
ในชีวิตประจำวัน เช่น ยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว การอ้าปากกว้างๆ เลิกคิ้ว ฯลฯ
วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือการคอยเตือนตัวเองให้แสดงสีหน้าในแบบต่างๆ แต่พองาม
และระวังไม่ให้เกิดความเครียด เพราะจะทำให้เราหน้านิ่วคิ้วขมวดโดยไม่รู้ตัว
การกดทับขณะนอนหลับ
เราต้องใช้เวลานอนวันละหลายชั่วโมง
การนอนในท่าทางที่ถูกต้องสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยได้มาก
ท่านอนที่ดีที่สุดสำหรับป้องกันการเกิดริ้วรอยคือท่านอนหงาย
เพราะใบหน้าจะไม่ถูกกดทับเหมือนการนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง
ความร่วงโรยของวัย
เมื่อย่างเข้าสู่เลข 3 ริ้วรอยประเภทนี้ก็จะเริ่มมาเคาะประตูเรียก
วิธีที่ดีก็คือพยายามทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ
และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะสมกับวัย และสภาพผิว
อ้างอิง
beautybyherb.com.สาเหตุการเกิดริ้วรอย. [ออนไลน์]เข้าถึง http://www.beautybyherb.com/%E0%B8%BABeauty-Tips/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2.html.สืบค้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556.
สาเหตุการเกิดฝ้า วิธีป้องกัน และการรักษา
ฝ้ามักขึ้นบริเวณใบหน้า
มีลักษณะสีน้ำตาลอมดำ อาจมีขนาดแตกต่างกัน มีตั้งแต่เป็นหย่อมเล็ก ๆ
จนกระทั่งขนาดใหญ่ บริเวณที่มักเกิดฝ้ามากที่สุด คือ โหนกแก้ม สันจมูก
และอาจเกิดที่หน้าฝาก โดยทั่วไปฝ้าจะเกิดกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป จนถึงผู้สูงอายุ
ฝ้ามักจะเกิดบริเวณผิวหนังส่วนที่ถูกแดด ควรระวังไม่ให้ถูกแดดซ้ำ
สาเหตุของการเกิดฝ้า
ฝ้าเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน
มีผลทำให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีในชั้นผิวหนัง ปัจจัยเหล่านี้อาจได้แก่
1.
แสงแดด เชื่อว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด
แสงอัลตราไวโอเลตทั้ง เอ และ รวมทั้งแสงvisible light เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดฝ้า หรือ ทำให้เป็นฝ้าได้มากขึ้น แสงอุลตราไวโอเลต จะมีมากในช่วงเวลา 10.00-14.00 น.แสงแดดในช่วงนี้มีผลทำให้
ผิวหนังเกิดการไหม้เกรียม และเกิดฝ้าได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดในช่วงเวลา
ดังกล่าว
2.
ฮอร์โมน ด้วยอิทธิพลของ
ฮอร์โมน จะทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติ
ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย (เช่น
การตั้งครรภ์, วัยหมดประจำเดือน) หรือได้รับ ฮอร์โมน จากภายนอกร่างกาย (เช่น
รับประทานยาคุมกำเนิด, การใช้ เครื่องสำอาง บางชนิดที่มี ฮอร์โมน ผสมอยู่) จึงมักพบผู้ที่เป็นฝ้าขณะตั้งครรภ์ หรือ รับประทานยาคุมกำเนิดได้บ่อย
3.
ยา พบว่าผู้ที่รับประทานยากันชักบางชนิด
มักเกิดผื่นดำคล้ายรอยฝ้าที่บริเวณใบหน้า
จึงเชื่อว่ายานี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดฝ้า
4.
เครื่องสำอาง การแพ้ส่วนผสมในเครื่องสำอางอาจทำให้เกิดรอยดำแบบฝ้าได้ ส่วนผสมเหล่านี้อาจเป็นพวกสารให้กลิ่นหอม หรือ สี
5.
พันธุกรรม เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
เนื่องจากมีรายงานว่าเป็นในครอบครัวได้ถึง ร้อยละ30-50
6.
ภาวะทุพโภชนาการ อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
เนื่องจากพบผื่นแบบฝ้า ในผู้ที่มีหน้าที่การทำงานของตับผิดปกติ
และ ผู้ที่ขาดวิตามินบี12
อ้างอิง
beautybyherb.com.2556 สาเหตุการเกิดฝ้า วิธีป้องกัน และการรักษา [ออนไลน์] เข้าถึงhttp://www.beautybyherb.com/%E0%B8%BABeauty-Tips/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2.html/สืบค้นเมื่อวันที่14
มิถุนายน 2556.
นางสาวชรินรัตน์ พ่วงสำราญ ชั้น6/5 เลขที่ 8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น