วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

ปัญหาชู้สาว




ปัญหาชู้สาว
อยู่ในความทุกข์ร้อน จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น
จะทำให้เด็กไม่คิดถึงใกล้ชิดกับเพศตรงข้ามจนสามารถสัมผัสร่างกายซึ่งกันและ กันหรือได้กลิ่นฮอร์โมนปัญหาหนักอกเกี่ยวกับเรื่องวุ่นๆของ วัยรุ่นคงหนีไม่พ้น เรื่องเพศ การใช้สารเสพติด และความรุนแรงซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเฉพาะกับวัยรุ่นไทยเท่านั้นแต่ เป็นสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นทั่วโลก
        
นาย สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ กรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติและผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิศูนย์พิทักษ์ สิทธิเด็ก ซึ่งได้รับทราบสถานการณ์ด้านเด็กวัยรุ่นทั่วโลก  พบว่าสถานการณ์ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับกลุ่มเด็กวัยรุ่น มีด้วยกัน 4 เรื่อง คือ เรื่องเพศ ความรุนแรง การใช้สารเสพติด และ ใช้จ่ายเงินเกินตัวหรือใช้ชีวิตโดยปราศจากทิศทาง ทั้งนี้ได้วิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหากับวัยรุ่นทั้ง ประเด็น ไว้อย่างน่าสนใจซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางให้พ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ที่ อยู่แวดล้อมเด็ก นำไปปรับใช้ในการดูแลเด็กวัยรุ่นได้
       การพัฒนาตนเอง ในด้านเพศที่กำลังเป็นปัญหามากสำหรับกลุ่มวัยรุ่นคือ ขาดผู้ชี้แนะหรือแนะนำถึงวิธีการดูแลสุขภาพทางเพศ หรืออนามัยเจริญพันธ์  ทำให้เด็กต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง ทั้งนี้อนามัยเจริญพันธ์ จะเชื่อมโยงมาถึงปัญหาสำคัญอีกสองปัญหา คือ ปัญหาการเรียนรู้เรื่องเพศได้แก่ การดูแลสุขภาพทางเพศของตนเองและการมีเพศสัมพันธ์   ปัญหาการรู้จักวางตนในด้านเพศกับบุคคลอื่นๆ หากเด็กวัยรุ่นไม่สามารถเรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้ จะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม
การ สื่อสารให้เด็กรู้จักดูแลสุขภาพทางเพศของตนเอง มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเด็กวัยรุ่นเพราะจะทำให้เด็กมีมุมมองเกี่ยวกับ เพศที่กว้างออกไปมากกว่าเรื่องการมีเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะเมื่อฮอร์โมนเพศ เริ่มทำงาน เด็กจะเริ่มตระหนักว่าตนเป็นเพศใด รวมทั้งมีความสนใจในเพศตรงข้ามและเกิดอารมณ์เพศเมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องเพศ การแนะนำให้เด็กรู้จักดูแลสุขภาพทางเพศของตนเองจะทำให้เด็กได้รับรู้เกี่ยว กับตนเอง ในทางที่ดี (การเข้าใจตัวเอง รู้จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง การเห็นความแตกต่างในเรื่องความสวยงาม ความสูง เตี้ย ขาว ดำ แตกต่างจากผู้อื่นให้ถือเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เรื่องผิดปกติโดยเฉพาะแรงดึง ดูดใจทางเพศไม่ได้มีแต่เรื่องความสวย ความหล่อ การแต่งตัวแต่งหน้าทาปาก
        การ สอนให้เด็กดูแลสุขภาพทางเพศของตนเอง นอกจากทำให้เด็กมีการรับรู้ที่ดีเกี่ยวกับตัวเองแล้ว ยังทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองเป็นคนมีคุณค่า เพราะการที่พ่อแม่พูดกับลูกเรื่องอนามัยเจริญพันธ์ ทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าในสายตาของพ่อแม่  แสดงให้เห็นว่า พ่อแม่เห็นความเปลี่ยนแปลง ใส่ใจในตัวเด็ก แม้แต่ในรายละเอียดเรื่องเล็กๆน้อยๆ ซึ่งพ่อแม่ไม่ควรจะเข้าใจและรู้แต่พ่อแม่กลับเข้าใจและรู้ เช่น การมีประจำเดือนของเด็กผู้หญิง จะรู้ได้อย่างไรว่าประจำเดือนจะมาหรือการมีอสุจิของเด็กชาย ควรจะดูแลทำความสะอาดอวัยวะเพศของแต่ละเพศอย่างไร มีปัจจัยกระตุ้นเร้าอารมณ์เพศทางใดบ้างที่ลูกควรหลีกเลี่ยง เช่น การมอง ผู้ชายจะอ่อนไหวต่อการภาพโป๊เปลือยทำให้เกิดอารมณ์เพศได้  เสียง ผู้หญิงจะอ่อนไหวต่อเสียงหวาน เสียงโรแมนติก การสัมผัส ผู้หญิงจะมีจุดที่อ่อนไหวต่อการสัมผัสมากกว่าผู้ชาย เช่น บริเวณหน้าอก สะโพก ขาอ่อน ปาก อวัยวะเพศ จึงมีคำสอนมาแต่โบราณเมื่อเด็กหญิงเริ่มแตกเนื้อสาวห้ามมิให้ใครจับมือถือ แขน ถูกเนื้อต้องตัวหรืออยู่กันตามลำพังสองต่อสองกับเพศตรงข้าม กลิ่นฮอร์โมนเพศของเพศตรงข้ามมีฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์เพศได้ การคิดหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องเพศแม้ว่าจะไม่มีเพศตรงข้ามอยู่ใกล้ ก็สามารถกระตุ้นตนเองให้เกิดความต้องการมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายเช่นกันราย ละเอียดเหล่านี้เป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องรู้และสอนเด็ก  ประการสำคัญการสอนเด็กให้ดูแลตัวเองในเรื่องเพศจะทำให้เด็กมี ในทางที่ดี ทดแทนการคิดหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องเพศ อวัยวะเพศ หรือการมีเพศสัมพันธ์
        การ สอนให้เด็กรู้จักดูแลสุขภาพทางเพศของตนเอง จะต้องมีทั้งด้านร่างกาย จิตใจและสังคม รวมทั้งต้องพัฒนาการวางตนที่เหมาะสม โดยรู้จักขอบเขตความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆทางร่างกาย จิตใจและสังคม เช่น ทางร่างกายไม่ควรอยู่เพศของเพศตรงข้าม ไม่ควรอยู่ในที่ลับสองต่อสองกับเพศตรงข้าม ทางด้านจิตใจไม่ควรมีความรู้สึกรักผูกพันกับใครฉันท์ชู้สาว  หรือไม่ควรพัฒนาความสัมพันธ์ทางใจกับใครฉันท์ชู้สาวเพราะจะทำให้ความสามารถ ในการควบคุมตนในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เราผูกพันก่อนวัยอันควรจะทำ ได้ยาก การวางตนทางสังคมไม่ควรให้ความสนิทสนมกับเพศตรงข้ามเช่นเดียวกับคนเพศเดียว กัน ไม่ควรไปเที่ยวดูหนังฟังเพลงกับเพื่อนเพศตรงข้ามตามลำพัง เป็นต้น
การพา เด็กไปร่วมกิจกรรมทางสังคม กิจกรรมทางศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี เช่น พบญาติ กิจกรรมของชุมชน งานแต่งงาน หรืองานบุญต่างๆ นอกจากจะทำให้เด็กสนุกแล้วยังทำให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องการสร้างสัมพันธภาพ กับคนในสังคม ที่มีเพศต่างกัน มีบทบาทและสถานภาพแตกต่างกันซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องถ่ายทอดให้แก่ลูกผ่านการปฏิบัติไม่ใช่การอ่านจาก หนังสือ เนื่องจากวัยรุ่นสมัยนี้ไม่สามารถจำแนกวิธีการปฏิบัติตัวกับเพศตรงข้ามที่มี สถานะแตกต่างกันได้ เช่น ปฏิบัติตัวกับเพื่อนต่างเพศเช่นเดียวกับปฏิบัติตัวกับคู่รักของตน จับมือ โอบกอด  และมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนจนตั้งครรภ์
       นอกจากนี้การเปิดโอกาสให้เด็กได้ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ช่วยเหลือคนที่เกี่ยวกับตัวเอง (ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นอารมณ์เพศ) และจะมีความระมัดระวังไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายจากการกระทำของตนเอง เช่น ลูกจะไม่กล้าไปมีเพศสัมพันธ์กับใคร  เพราะกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เหล่านี้จะทำให้เด็กได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ ที่ได้เห็นความทุกข์ร้อนของผู้อื่น เข้าใจและนึกถึงผู้อื่นมากขึ้น




 นางสาววิมลณัฐ เต็มดวง  ชั้น ม.6/5 เลขที่ 14




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น